มะเร็งต่อมน้ำเหลืองคืออะไร โรคร้ายที่ควรระวัง

0
2701

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง โรคร้ายที่ควรระวัง

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถือได้ว่าเป็นมะเร็งอีกชนิดหนึ่งบ ที่พบได้บ่อยมากในกลุ่มของโรคมะเร็งต่างๆ โดยเป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นกับเซลล์ของต่อมน้ำเหลืองโดยตรง โดยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนี้ จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ มะเร็งชนิดNon-Hodgkin lymphoma (NHL) และ Hodgkin disease (HD) ซึ่งจะมีอาการคล้ายกันคือต่อมน้ำเหลืองจะโต แต่ชนิด NHL จะพบได้ในอวัยวะอื่นๆ ด้วย เป็นต้นว่า ปอด สมอง ลำไส้ ฯลฯ ในประเทศไทยจะพบได้มาก คือประเภท NHL

อาการของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ที่พบได้บ่อยนั้น จะมีอาการส่วนใหญ่ คือคลำพบก้อนเนื้อโต แต่ไม่เจ็บที่ลำคอ ขาหนีบ ร่องเหนือกระดูกไหปลาร้า  ต่อมาจะมีอาการคันทั่วตัว เบื่ออาหาร น้ำนักลดลงอย่างมาก จนทำให้ผอมลงอย่างรวดเร็ว มีไข้และเหงื่ออกมากในเวลากลางคืน ปวดหลัง ปวดกระดูก ปวดท้อง ปวดเส้นประสาท จากการที่ต่อมนำเหลืองนั้นโต แล้วไปกดทับอวัยวะเหล่านั้น อย่างไรก็ตาม ในระยะเริ่มแรก สามารถที่จะไปตรวจในทางพยาธิวิทยา โดยการตัดต่อมน้ำเหลือไปตรวจได้

สำหรับโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือ แบ่งออกเป็น 4 ระยะ ดังต่อไปนี้

– ระยะที่ 1 สำหรับระยะนี้ มะเร็งจะอยู่ที่ต่อมน้ำเหลืองที่จุดเดียว ยังไม่พบที่จุดอื่น

– ระยะที่ 2 มักเป็นระยะที่พบเห็นมะเร็งมากกว่า 2 จุด  ซึ่งจะอยู่ในด้านเดียวกัน ของกระบังลม

– ระยะที่ 3 เป็นระยะที่พบมะเร็งกระจายอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ ทั้ง 2 ด้านของกระบังลม

– ระยะที่ 4 เป็นระยะลุกลาม โดยเนื้อร้ายจะลุกลามออกมานอกต่อมน้ำเหลือง และเริ่มที่ลามเข้าสู่ไขกระดูก

การรักษาโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง

– มักจะเป็นการรักษาด้วยรูปแบบของเคมีบำบัด ที่ช่วยในเรื่องของการใช้ยาเพื่อรักษามะเร็งให้หายขาด นอกจากนั้นแล้ว ยังสามารถใช้รังสี ในการฉายเพื่อให้อก้อนมะเร็งยุบ และสามารถควบคุมก้อนมะเร็งไม่ให้ลุกลามได้ อย่างรก็ตามยังมีกรรมวิธีการรักษาด้วยการใช้ยาบางประเภทด้วยเช่นกัน ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ที่พิจารณาจากระยะของโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองดังกล่าว

– นอกจากนั้นแล้วยังมีวิธีการรักษา ด้วยการเปลี่ยนไขกระดูก คือจะใช้เคมีบำบัด ร่วมกับการปลูกถ่ายตัวอ่อนของไขกระดูก เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถตอบสนองต่อยาได้ดีมากขึ้นนั่นเอง

– สำหรับการป้องกันโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนั้น ไม่มีวิธีที่แน่นอนนัก แต่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แนะนำมาว่า ควรมีการควบคุมอารมณ์ ให้อยู่ในสภาวะที่ปกติ ไม่ควรจิตตก หรือเครียดมากเกินไป เพราะอารมณ์เหล่านั้นจะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายนั้นทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือประสิทธิภาพลดลง ทำให้เซลล์ในร่างกายที่มีความผิดปกติสามารถพัฒนาเป็นเซลล์มะเร็งได้ดีมากขึ้น

– ปัจจัยอีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้นั่นคือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายเป็นประจำด้วย