กลูต้าคืออะไร อันตรายหรือไม่ สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้

0
19527

กลูต้าคืออะไร อันตรายหรือไม่ สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้

กลูต้า ขาวจริง ขาวไว ขาวเร่งด่วน หลายคนคงรู้จักหรืออย่างน้อยก็เคยผ่านหูผ่านตามาบ้างเป็นแน่กับคำโฆษณาถึงสรรพคุณของกลูต้าซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในครีมประเภทช่วยให้ขาว หรืออาหารเสริมประเภทกลูต้าเพราะมีมากเหลือเกินตามท้องตลาดและตามอินเตอร์เน็ตแต่ถามว่ารู้จักกลูต้าไหมว่ามันคืออะไร ที่ว่ามีประโยชน์ช่วยให้ขาวจริงมั้ย และกลูต้ามีอันตรายอะไรบ้าง ร้ายแรงแค่ไหน เชื่อว่า คนจำนวนมากคงจะยังไม่มีข้อมูลที่ลึกขนาดนั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลที่มีประโยชน์แก่ผู้บริโภคที่กำลังมองหากลูต้าไว้รับประทานกัน  ลองมาอ่านรายละเอียดกันเลย

กลูต้าคืออะไร ? 

สารกลูตาไธโอน เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายของเราสามารถผลิตได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง  สารกลูต้าไธโอนมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่องมานานมากแล้ว โดยได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยารักษาทางการแพทย์มานานกว่า 30 ปี การรักษามักจะใช้วิธีฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ วงการแพทย์พบว่า สารกลูตาไธโอนมีผลข้างเคียงในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทำให้เม็ดสีเมลานินของผิวหนังเปลี่ยนไป  เนื่องจากเม็ดสีเมลานินเป็นเม็ดสีเข้ม ดังนั้นเมื่อเม็ดสีเมลานินลดลง จึงเป็นเหตุให้ผิวที่เคยเข้มจากเมลานินหายไป กลายเป็นผิวสีจางลงที่เรามองเห็นว่าคือความขาว

 อันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการกินและฉีดกลูต้า

เนื่องจากเมลานิน โดยตัวของมันเองมีฤทธิ์ในการปกป้องผิวจากแสงแดด เหมือนมีแผ่นกรองแสง ช่วยกระจายแสงที่ตกกระทบผิวและยังช่วยดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลตจากแสง อีกด้วย ดังนั้น ถ้าเมลานินลดลงจากการฉีดกลูต้า ย่อมหมายความว่า ผิวของเราจะไม่มีตัวช่วยกรองแสงหรือดูดซับรังสีจากแสง และนั่นคือผิวของเราจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังหากดูแลปกป้องไม่ดีพอ

นอกจากนั้น การที่มีเม็ดสีเมลานินยังเป็นอันตราย เพราะบทบาทหน้าที่ของเมลานินที่สำคัญอีกอย่าง คือการกำจัดสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บของพันธุกรรมในเซลล์เนื่องจากเม็ดสีที่ลดลง เมื่อสารพันธุกรรมในระดับเซลล์ผิดปกติไป อาจส่งผลให้เกิดความผิดปกติหลายอย่าง เช่น เสี่ยงเป็นมะเร็ง

จึงอาจกล่าวได้ว่า กลูต้าถึงแม้มีคุณภาพมาตรฐาน ก็มีอันตรายตรงที่ลดเม็ดสีในร่างกายที่หมายถึงทุกๆส่วนของร่างกายไม่เว้นแม้แต่นัยน์ตา  ทำให้ตามองเห็นได้ไม่ชัด อักเสบง่าย และสุดท้ายอาจทำให้ตาบอดได้ ส่วนผิวที่ขาดเม็ดสีเมลานินก็เป็นผิวที่อ่อนแอต่อแสง ทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง