จัดฟัน ดัดฟัน เริ่มต้นอย่างไร ค่าใช้จ่าย [ที่นี่มีคำตอบ]

0
19334

จัดฟัน ดัดฟัน เริ่มต้นอย่างไร ค่าใช้จ่าย [ที่นี่มีคำตอบ]

ปัจจุบันการจัดฟันไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอีกต่อไป เพราะปัจจุบันการจัดฟันเป็นเรื่องที่นิยมกันมากในหมู่วัยรุ่น  หากย้อนไปในอดีตการจัดฟันเป็นเรื่องที่น่าอายมาก คนที่จัดฟันส่วนมากเป็นกลุ่มของคนที่มีความต้องการจัดจริงๆเท่านั้น แต่อย่างที่เห็นในตอนนี้มีกันเยอะไปหมดไม่ว่าจะเป็นการจัดตามแฟชั่น การจัดฟัน เพื่อความสวยงาม และมีหมอเก่งๆที่รอให้คุณดัดฟัน จัดฟันของคุณให้สวยงาม น่าดูกว่าแต่ก่อน แต่ก็ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่ราคาไม่เบาเช่นกัน

ค่าใช้จ่ายในการจัดฟัน

ขึ้นอยู่กับเครื่องมือแต่ละชนิดอาจมีความสามารถในการเคลื่อนฟันต่างกัน หรือสร้างจากวัสดุที่ต่างกัน และในบางครั้งผู้ป่วยคนหนึ่งอาจต้องใช้เครื่องมือมากชนิดกว่าผู้ป่วยอีกคนหนึ่ง เช่น จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ใส่ภายนอกปากเพิ่มเติมด้วย ก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงมากขึ้น

และในเรื่องการใช้บริการในแต่ละสถานที่หากเป็นสถานที่ในราชการก็ประมาณ 25,000 บาท หรือเครื่องมือที่สามารถถอดได้ประมาร 15,000 บาท แต่หากท่านใช้บริการตามคลินิกก็จะอยู่ในราคา 35,000-40,000 บาทหรืออาจต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วยเดียวกันการถอนฟันอุดฟัน เอ็กซเรย์ แต่หากเป็นในส่วนพื้นที่ราชการท่านต้องยินยอมให้นิสิตที่มาฝึกงานมาปฏิบัติร่วมด้วย

เห็นราคาแล้วใครที่คิดจะดัดฟันหรือจัดฟันแฟชันตามยุคสมัยแนะนำให้คุยกับผู้ปกครอง ถ้าหากผู้ปกครองยินดีจ่ายให้หรือยินยอมก็ดี แต่หากเห็นว่ายังไม่สมควรแนะนำให้รอไปก่อนหรือเก็บเงินไว้ก่อนให้ครบกับที่ราคาที่ตั้งไว้ ไว้ครบเมื่อไรค่อยทำดีกว่าครับ


การเตรียมตัวก่อนการจัดฟัน

การจัดฟันให้ได้รูปนั้นถือว่ามีประโยชน์หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นช่วยทำให้รูปหน้าของเราดีขึ้น ช่วยในการบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยให้เราสามารถออกเสียงได้ดีและชัดเจนขึ้น ช่วยทำให้คุณมีความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่สำหรับใครที่กำลังคิดจะจัดฟันนั้น อันดับแรกคุณต้องเตรียมความพร้อมต่างๆ กันให้ดีเสียก่อน เพราะบางคนอาจจะต้องใช้เวลานานในการจัดฟันถ้าฟันของคุณมีปัญหามาก ดังนั้นสำหรับวิธีการเตรียมตัวต่างๆ ก่อนการจัดฟันจะพอสรุปได้ดังนี้

  1. พบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาและสอบถามข้อมูลต่างๆ ของการจัดฟัน เพราะทันตแพทย์จะเป็นผู้ที่ให้คำตอบเราได้ดีที่สุด แต่ควรเลือกคลินิกหรือร้านหมอฟันที่เชื่อถือได้ และเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปกันด้วย เพื่อให้อุปกรณ์ต่างๆ สะอาด และปลอดภัย
  1. ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของราคา เพราะคลินิกแต่ละทีอาจจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้และการจัดโปรโมชั่นเพื่อแข่งขันกัน
  1. ดูแลรักษาสุขภาพฟันให้สะอาดและมีสุขภาพดีอยู่เสมอก่อนการจัดฟัน
  1. เตรียมตัวยอมรับกับความปวดที่อาจจะเกิดขึ้น เพราะถ้าฟันเรามีปัญหามากเวลาจัดในช่วงแรกเราอาจจะรู้เจ็บและเคี้ยวอาหารได้ลำบาก

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะไปจัดฟัน คุณจึงควรเตรียมตัวให้พร้อมในเรื่องต่างๆ เพราะยังไงแล้วเจ้าเหล็กดัดฟันก็จะต้องอยู่กับเราไปอีกสักระยะ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือไม่ว่าจะเป็นก่อนจัดหรือหลังจัดคุณต้องระวังในเรื่องของความสะอาดให้มากที่สุด เมื่อเตรียมตัวต่างๆ พร้อมแล้วคราวนี้ก็ไปพบทันตแพทย์เพื่อจัดฟันกันได้เลย

ขั้นตอนการจัดฟัน

โดยปกติผู้ที่มีปัญหาเรื่องฟัน เช่น ฟันห่าง ฟันเก ฟันซ้อน ฟันไม่ได้รูป หรือฟันเหยิน และอื่นๆ หากต้องการจัดฟันเพื่อแก้ปัญหาต่างๆเหล่านี้ ต้องทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะต้องมีขั้นตอนการจัดฟันโดยคร่าวๆ ดังนี้

1.ก่อนอื่นทันตแพทย์จะตรวจลักษณะใบหน้า การสบฟัน เพื่อดูความจะสามารถทำการจัดฟันให้เข้ารูปได้หรือไม่ โดยจะมีการเอกซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างใบหน้า และขากรรไกร

2.ต่อมาทันตแพทย์จะทำการพิมพ์แบบจำลองฟัน เพื่อบันทึกรายละเอียด และตรวจสภาพการสบฟัน         จากนั้นทันตแพทย์จะต้องตรวจรักษาฟันก่อน เช่น หากมีหินปูนก็ต้องขูดออกก่อน หรือ ถอนฟันซี่ที่จำเป็นต้องถอน ผ่าฟันคุด อุดฟัน รักษารากฟัน รักษาโรคเหงือก และอื่นๆ ซึ่งถือว่ามีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งก่อนที่จะใส่เครื่องมือจัดฟัน เพื่อความคงทนของฟัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดฟันให้ได้ผล

3.ต่อมาจะเป็นการฟังคำแนะนำ ข้อควรปฏิบัติต่างๆ และตกลงเรื่องราคาค่าจัดฟันกับทันตแพทย์เมื่อตกลงจะทำก็มาถึงขั้นตอนการจัดฟันเลย

4.ทันตแพทย์จะใส่ยางแยกฟัน แล้วจึงติดเครื่องมือจัดฟัน หลังจากนั้นจึงใช้ยางดึงฟัน เพื่อให้ฟันได้เข้ารูปตามที่ต้องการ เมื่อทำการดัดฟันเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการปรับเครื่องมือทุกๆ เดือน เพราะฟันที่เราจัดจะมีการเคลื่อนที่อย่างช้าๆ ตามการจัดฟัน หลังจากนั้นจึงทำการขูดหินปูนทุกๆ 6 เดือนเพื่อเป็นการดูแลรักษาฟัน เพราะไม่อย่างนั้นหินปูนจะไปเกาะที่เครื่องมือจัดฟันได้

5.เมื่อใส่เครื่องมือไปได้สักพักบางคนอาจจะ 2 ปี บางคนอาจจะ 3-5 ปี แล้วแต่รูปฟันของแต่ละคน ก็มาถึงขั้นตอนการถอดเครื่องมือจัดฟัน แล้วจึงขูดหินปูน ขัดฟัน แล้วจึงทำรีเทนเนอร์เท่านี้คุณก็จะได้ฟันสวยตามที่คุณต้องการแล้วค่ะ

การดูแลตัวเองหลังการจัดฟัน

หลังจากทำการจัดฟันมาเรียบร้อยแล้ว การดูแลหลังการจัดฟันก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ใช่น้อย เพราะจะมีผลทำให้การจัดฟันของคุณมีประสิทธิภาพและได้ผลดียิ่งขึ้น สำหรับวิธีการดูแลตัวเองในเรื่องต่างๆ นั้นจะได้แก่

  1. เรื่องของความสะอาด ในช่วงนี้ปากและฟันของคุณต้องสะอาดกันเสมอ โดยเฉพาะในระหว่างรับประทานอาหารเครื่องจัดฟันบางชนิดโดยเฉพาะในลักษณะแบบติดแน่นจะมีส่วนทำให้เศษอาหารไปติดอยู่ตามซอกต่างๆ ได้ง่าย ถ้าเราไม่ดูแลรักษาความสะอาดก็อาจจะมีผลทำให้เกิดฟันผุหรือมีอาการของเหงือกอักเสบเกิดขึ้นได้ ดังนั้นหลังการจัดฟันเราจึงควรแปลงฟันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอในทุกเช้าเย็น และหลังการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อ
  1. เลือกรับประทานอาหาร โดยให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีลักษณะแข็งๆ เช่น การเคี้ยวกระดูกไก่ ถั่วบางประเภท และอาหารที่มีลักษณะเหนียว เช่น หมากฝรั่ง ลูกอม เป็นต้น
  1. หลีกเลี่ยงการใช้ลิ้นดุนอุปกรณ์ดัดฟันต่างๆ เพราะจะทำให้ฟันไม่ได้รูปและอาจจะต้องเสียเวลาในการดัดฟันนานขึ้นกว่าปกติ
  1. ในช่วงแรกของการดัดฟันเราอาจจะรู้สึกเจ็บการรับประทานอาหารจะค่อนข้างลำบาก ดังนั้นในช่วงนี้ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ อย่างเช่น โจ๊ก หรือข้าวต้ม เมื่ออาการทุเลาลงแล้วค่อยเปลี่ยนมารับประทานอาหารประเภทข้าวสวย เพราะเมื่อฟันเริ่มเข้าที่เข้าทางอาการเจ็บหรือปวดที่บริเวณรากฟันก็จะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

จึงจัดได้ว่าการดูแลช่องปากหลังจากจัดฟันเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าเราดูแลตัวเองดีก็จะมีส่วนช่วยทำให้การจัดฟันได้ผลดี และไม่ต้องยื่นระยะเวลาในการจัดฟันให้ออกไปอีก ดังนั้นสำหรับใครที่พึ่งทำการจัดฟันจึงไม่ควรละเลยในเรื่องของการดูแลตัวเองกันนะคะ

ข้อเสียจากการจัดฟัน

สำหรับผู้ที่ต้องการจะจัดฟันทั้งหลาย มักจะกังวลว่าจัดฟันมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง มีผลดี หรือผลเสียอย่างไรบ้าง ซึ่งสำหรับข้อดีเราก็ทราบกันดีว่า ฟันจะเรียงได้รูปสวย แล้วบางคนรูปหน้าจะเปลี่ยนตามไปด้วย

โดยข้อเสียของการจัดฟันที่มักพบบ่อยๆ ในระหว่างที่จัดฟัน นั่นคือ ในขณะที่เราทำการดัดฟัน เราต้องเจ็บปวดทรมานตอนที่หมอดึงลวด บางครั้งลวดอาจบาดปากได้ และขณะที่เราใส่เหล็กดัดฟันบางคนฟันจะห้อยๆ เหมือนอมอะไรอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งเมื่อทำการการจัดฟันแล้วต้องเข้าพบทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการจัดฟันโดยเฉพาะอยู่บ่อยๆ เพื่อดูความคืบหน้าของฟัน ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก และยังต้องดูแลรักษาฟันที่จัดอยู่อย่างสม่ำเสมอ

บางคนก็มีปัญหาเหงือกร่น เพราะตอนจัดฟันจะต้องใส่ตัวครอบด้านในทั้งสี่ด้าน (ซ้าย ขวา ทั้งบนและล่าง)  โดยตัวครอบฟันนี้จะกดเหงือกให้ร่นลงไป พอเอาเครื่องมือออกฟันก็ร่นถาวรไปแล้ว

แต่ที่หลายๆ คนกังวลนั่นคือ การใส่รีเทนเนอร์ เพราะหลังการจัดฟัน หลายๆ คนต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอด แต่อย่างไรก็ตามหากเราปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์แนะนำ ว่าต้องใส่รีเทนเนอร์นานแค่ไหน เราก็ไม่ต้องจำเป็นที่จะต้องใส่รีเทนเนอร์ตลอดเวลา และข้อเสียข้อสุดท้ายนั่นคือฟันที่เราทำการจัดมา เนื่องจากมีการเคลื่อนตัวในการจัดฟัน เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งของฟัน จึงทำให้ความคงทนถาวรของฟัน หรืออายุการใช้งานของฟันลดลง โดยเรามักจะพบว่าผู้ที่เคยจัดฟันมาก่อนเมื่ออายุมากขึ้นมักจะต้องใส่ฟันปลอม เพราะฟันหลุดร่วงง่ายนั่นเอง

สำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟัน เพื่อทราบข้อดี ก็ขอให้พิจารณาข้อเสียด้วย เพราะเมื่อเราจัดฟันไปแล้ว เราไม่สามารถแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง