วิตามินซี คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

0
15607

วิตามินซี คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

วิตามินเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ร่างกายจำเป็นต้องใช้ ซึ่งมีด้วยกันหลายชนิด ตั้งแต่วิตามิน A/B/C ซึ่งแต่ละชนิดก็ให้ประโยชน์ที่ต่างกัน ตามคุณสมบัติ วันนี้จะได้แนะนำให้รู้จักวิตามินซี Vitamin C ที่หลายคนรู้จักเพียงว่า เป็นวิตามินที่พบมากในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน แต่รายละเอียดเกี่ยวกับวิตามินนั้น มีมากกว่าข้อมูลพื้นฐานดังกล่าว เราลองมาดูกัน

วิตามินซีคืออะไร

วิตามินซีมีชื่อทางเคมีว่า L-ascorbic acid หรือ ascorbate  การจะบอกว่าคืออะไร คงระบุคำจำกัดความได้ยาก ได้แต่บอกเป็นคุณสมบัติว่า คุณสมบัติทั่วไปของวิตามินซีก็คือ เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้

ปริมาณที่ควรรับประทาน/วัน

ทั่วไป การรับประทานวิตามินซีในแต่ละวัน อยู่ที่  100-200 มิลลิกรัม/วัน  แต่ถ้าคุณเป็นคนที่สูบบุหรี่ประจำต้องเพิ่มปริมาณเป็น 200 มิลลิกรัม/วัน ในคนที่อยู่ในภาวะเครียดอาจมีความต้องการวิตามินซีถึง 500 มิลลิกรัม/วัน  และต้องการมากขึ้นถึง 1,000 มิลลิกรัม  หากเป็นการรับประทานเพื่อสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ

วิตามินซีจากธรรมชาติ

อาจยังมีความเข้าใจผิดคิดว่าวิตามินซีมีมากที่สุดใน “มะนาว” เพราะความเปรี้ยวจี๊ด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงคือ ฝรั่ง  พริกหยวกสีแดง  ผักเคล  องุ่น  ส้ม กีวี่  สับปะรด  และลิ้นจี่ ตามลำดับ

ประโยชน์ของวิตามินซี

  1. เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่ทำให้ร่างกาย ผิวพรรณ เสื่อมก่อนถึงเวลา วิตามินซีจะช่วยต้านในส่วนนั้น จึงนิยมใช้เพื่อลดริ้วรอย เหี่ยวย่นอันเกิดจากแก่ก่อนวัย
  2. ช่วยป้องกันไม่ให้เป็นหวัดง่าย เนื่องจากช่วยให้มีภูมิต้านทานที่ดีขึ้น
  3. ช่วยเกี่ยวกับระบบเลือด ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เส้นเลือดแข็งแรงขึ้น ลดความดันเลือด ลดการอุดตันของหลอดเลือดดำ
  4. ช่วยสมานแผล เป็นระบบการซ่อมแซมเซลล์ของร่างกายนั่นเอง
  5. ช่วยให้เหงือกแข็งแรงขึ้น ตลอดจนป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันที่เรียกว่า ลักปิดลักเปิด
  6. ช่วยควบคุมไขมันในเส้นเลือด หรือที่เรียกว่า คลอเรสเตอรอล  เป็นสรรพคุณของวิตามินซีที่ช่วยไม่ให้ไขมันเกาะที่ผนังหลอดเลือด  ลดคอเลสเตอรอลในเลือด
  7. วิตามินซี ป้องกันความเสี่ยงโรคมะเร็งร้าย ด้วยการเข้าไปต้านการสร้างสารไนโตรซามีนที่เป็นสารก่อมะเร็ง
  8. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ หอบหืด

อนึ่ง แม้วิตามินซีจะมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง แต่ไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะอาจทำให้เป็นนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ เนื่องจากเมื่อต้องมีการขับส่วนเกินออกทางปัสสาวะ โอกาสที่จะมีตะกอนตกค้างก็มีเพิ่มขึ้น และไม่ควรรับประทานเวลาท้องว่าง เพราะจะทำให้ระบบทางเดินอาหารเกิดความระคายเคือง  ด้วยความมีฤทธิ์เป็นกรดของวิตามินซีเอง